5 เหตุการณ์เด่นศึกพรีเมียร์ลีก สำหรับศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023

5 เหตุการณ์เด่นศึกพรีเมียร์ลีก จบไปอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023 โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ได้สำเร็จ พร้อมทั้งเป็นแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันของพวกเขา ขณะที่ อาร์เซน่อล ต้องจมน้ำตาที่ชวดแชมป์ทั้งๆ ที่ครองจ่าฝูงมานานเกือบทั้งซีซั่น ด้าน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในยุค เอริค เทน ฮาก ถือว่ายอดเยี่ยมการจบอันดับ 3 พร้อมแชมป์คาราบาว คัพ ถือว่าเกินเป้าหมาย แต่ที่น่าผิดหวังคงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล เพราะหากไม่นับสกอร์แดงเดือดถล่ม “ผีแดง” 7-0 ที่เหลือไม่มีอะไรน่าจดจำเลยจริงๆ

5 เหตุการณ์เด่นศึกพรีเมียร์ลีก

1. พรีเมียร์ลีกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้หากเปรียบเทียบกับเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยเฉพาะสโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังหากไม่นับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์ทีมท็อปโฟร์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาหายหน้าไปหมด โดย ลิเวอร์พูล ซึ่งคว้ารองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว แต่ซีซั่นปัจจุบันร่วงไปอยู่อันดับ 5 ขณะที่ เชลซี หนักกว่าพวกเขาร่วมกราวรูดจากอันดับ 3 ไปอยู่อันดับ 12 สำหรับ สเปอร์ส ที่รั้งอันดับ 4 แต่ได้ที่ 8 ในฤดูกาลนี้

สำหรับ อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 5 เมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้ฟอร์มสุดยอดถึงขนาดรั้งจ่าฝูงตั้งแต่แต่มาพลาดช่วงโค้งสุดท้ายก็เลยได้แค่อันดับ 2 กระนั้นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับ “ไอ้ปืนใหญ่” ก็คือพวกเขาใช้ผู้เล่นอายุน้อยเป็นแกนหลัก และเชื่อว่าประสบการณ์ที่ได้รับจะพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้ กระนั้นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าสุดยอดมากๆ เพราะหลังจาก 1 ปีผ่านมาพวกเขากระโดดจากอันดับ 11 ขึ้นมาติดท็อปโฟร์ เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 3 ทั้งๆ

ที่ซีซั่นที่แล้วพวกเขาได้ที่ 6 เท่านั้น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (จากอันดับ 9 ขึ้นไปอยู่ที่ 6), แอสตัน วิลล่า (จาก 14 ไปอยู่ที่ 7) ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าทีมเหล่านี้มีพัฒนาการอย่างมาก และพวกเขายังได้รับรางวัลแห่งความพยายามด้วยการได้ไปเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรปด้วย ฉะนั้นในฤดูกาลหน้า อาจจะมีปรากฎการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะในเรื่องการลุ้นแชมป์ และท็อปโฟร์ น่าจะมีความเข้มข้นมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะหลายๆ ทีมคงมีการเสริมทัพเพื่อหวังสร้างผลงานล้มยักษ์ แมนฯซิตี้ ให้ได้

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์สามสมัยติดต่อกัน

ในช่วงต้นฤดูกาล เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้จิ๊กซอว์สำคัญนั่นก็คือ เออร์ลิง ฮาลันด์ มาร่วมทัพ แต่กระนั้นฟอร์มของพวกเขาอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก เพราะทีมมีอาการสะดุดในบางช่วง จนเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาโดน อาร์เซน่อล ยึดจ่าฝูงมาตลอด

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023 ทัพ “เรือใบสีฟ้า” ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง เล่นด้วยฟอร์มที่คงเส้นคงวา และเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่น โดยนับตั้งแต่ที่เสมอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นพวกเขาสะกดคำว่าเสมอ กับ แพ้ ไม่เป็นอีกเลย จนเข้าป้ายคว้าแชมป์จึงค่อยปล่อยคันเร่ง

สำหรับตอนนี้ เป๊ป แอนด์ โค. สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรด้วยการคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน และยังเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ในรอบ 6 ปีด้วย นอกจากนี้ทีมยังมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่รออยู่อีก 2 รายการพวกเขาจะต้องปะทะกับคู่อริร่วมเมือง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ และพบกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ในนัดชิง ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลองนึกดูว่ามันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนหาก แมนฯ ซิตี้ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ เพราะนั่นเป็นการทาบรัศมี แมนฯ ยูฯ ที่เคยทำได้เมื่อปี 1999 ยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียน

3. อาร์เซน่อล ทำผลงานดีแต่ไม่สุด

ต้องยอมรับว่า มิเกล อาร์เตต้า สร้าง อาร์เซน่อล ชุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยพวกเขามีแกนหลักเป็นนักเตะอายุน้อย และฟอร์มการเล่นก็ดุดันน่าเกรงขาม อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิดทำให้ทีมไม่สามารถแบกรับแรงกดดันเอาไว้ได้ “ไอ้ปืนใหญ่” โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนเข้าสู่ช่วงต้นปี 2023 เวลานั้นทีมมีแต้มนำห่าง แมนเชสเตอร์ วิตี้ ถึง 8 คะแนน แต่พอเข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแบบดื้อๆ

จากสถิติระบุอย่างชัดเจนว่าทัพ “เดอะ กันเนอร์ส” ครองจ่าฝูงถึง 93 เปอร์เซนต์ของซีซั่น แต่น่าเสียดายที่ดันสติแตกในช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้ผลงานร่วมกราวรูดจนวืดแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบ 2 ทศวรรษไปอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้พวกเขายังมีสถิติที่ไม่น่าจดจำเอาซะเลย เพราะ อาร์เซน่อล รั้งตำแหน่งจ่าฝูงถึง 248 วันแต่กลับได้แค่รองแชมป์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติวงการลูกหนังเมืองผู้ดีในฐานะทีมที่ครองจ่าฝูงนานที่สุดแต่ชวดแชมป์ !! อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ควรจะแฮปปี้ นั่นก็คืออย่างน้อยพวกเขาก็ได้หวนกลับสู่การเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 7 ปี

4. สติแตก โรนัลโด้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวนกลับมาเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว พร้อมกับความคาดหวังมากมาย แต่สุดท้ายทีมกับไม่ได้รับอะไรเลย แถมชวดตำแหน่งท็อปโฟร์ด้วย ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้นก็เกิดคลื่นใต้น้ำมากมายภายในทีม

จนกระทั่ง เอริค เทน ฮาก ก้าวเข้ามากุมบังเหียน เขากล้าที่จะงัดข้อกับ โรนัลโด้ โดยไม่เกรงกลัวบารมีความเป็นตำนานของ “เฮียโด้” และพร้อมที่จะดร็อปนักเตะหากไม่ปฏิบัติตามที่สั่ง

เรื่องกินแหนงแคลงใจระหว่าง “ซีอาร์ เซเว่น” กับ เทน ฮาก มีออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นเมื่อนักเตะตัดสินใจให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรชื่อดัง โจมตีสโมสรและกุนซือชาวดัตช์อย่างรุนแรง

การออกมาสาวไส้แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไม่ไว้หน้า ทำให้สโมสร และ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส จบช่วงเวลาฮันนีมูนที่แสนหอมหวาน แต่ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจจบทุกอย่างด้วยการยกเลิกสัญญา ต่างฝ่ายต่างเดินตามเส้นทางของตัวเอง

สุดท้าย โรนัลโด้ เลือกย้ายไปรับทรัพย์มหาศาลกับ อัล-นาสเซอร์ ในศึกซาอุดิ โปรลีก แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเพราะนักเตะก็มีปัญหากับทีมและแฟนบอล แถมล่าสุดทีมยังชวดแชมป์ด้วย

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่ โรนัลโด้ จากไป พวกเขาก็ฟอร์มดีวันดีคืน ทั้งคว้าแชมป์คาราบาว คัพ, ติดท็อปโฟร์ แถมยังทะลุชิง ศึกเอฟเอ คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วย

5. การลงทุนที่ไร้ค่าของ เชลซี

ท็อดด์ โบห์ลี่ ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่ของ เชลซี พร้อมกับความมุ่งมั่นใจจะนำสโมสรประสบความสำเร็จเหมือนกับที่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เคยทำเอาไว้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คาดหวังอภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน มีความตั้งใจที่จะทุ่มเงินเพื่อหวังใช้ซื้อความสำเร็จแบบรวดเร็วทันใจ เหมือนที่หลายๆ ทีมนิยมทำกัน แต่มันไม่ได้ง่ายสำหรับในศึกพรีเมียร์ลีก เพราะที่นี่ทุกๆ ทีมสามารถแพ้ชนะได้ตลอดเวลาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และตลาดนักเตะฤดูกาลหนาว

“เสี่ยท็อดด์” เซ็นเช็คให้ เชลซี ไปแล้วเบ็ดเสร็จกว่า 611 ล้านยูโร (ราว 25,662 ล้านบาท) เพื่อดึงนักเตะ 16 คนมาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ สวนทางกลับรายได้ที่หามาจากการขายผู้เล่นซึ่งทำเงินเพียง 68 ล้านยูโร (ราว 2,856 ล้านบาท) เท่านั้น เพราะฉะนั้นเสี่ยเมืองลุงแซมใช้เงินไปมากกว่าครึ่งพันล้านยูโรเพื่อช่วยให้ทีมกลับมาสู่สถานะยักษ์ใหญ่อีกครั้ง แต่หลังจากนั้นทุกอย่างกลับตาลปัตรเพราะมันเต็มไปด้วยความผิดหวัง พวกเขาจบอันดับ 12 ในตารางลีก และยังร่วงตกรอบฟุตบอลถ้วยทุกรายการตั้งแต่ไก่โห่ นอกจากจะซื้อนักเตะมาเยอะแล้ว สโมสรยังเป็นโค้ช 4 คนในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาด้วยสำหรับสตาร์ค่าตัวแพงที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังมีมากมายรวมทั้ง มาร์ค กูกูเรย่า, คาลิดู คูลิบาลี่, มิไคโล มูดริก และ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ซึ่งพวกเขามีชื่อติดทีมยอดแย่ประจำซีซั่นนี้ด้วย

หากสนใจในการแทงบอล สามารถ แทงบอลออนไลน์ 365kub ได้ 24 ชม. ติดตามข้อมูลสาระข่าวสารเพิ่มได้ที่

  • ยูทูป  บ้าบอล – YouTube
  • เฟสบุ๊ค บ้าบอล | Facebook

สรุป

หากสนใจในการแทงบอล สามารถ แทงบอล ผ่านทางระบบออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันแถมยังมีให้เลือกครบทุกลีกทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นลีกเล็กลีกใหญ่ก็ แทงบอลออนไลน์ ได้ง่ายๆ ผ่านทางระบบออนไลน์สะดวกทุกที่เดิมพันกัน ได้ทั่วโลกไปเลย อีกทั้งแต่ละรูปแบบของการ แทงบอลออนไลน์ นั้นก็ยังให้อัตราที่ดีที่สุดที่มาพร้อมกับ  เว็บแทงเกมพนัน สนับสนุนให้ทุกท่าน เสี่ยงโชคอย่างถูกกฎหมาย และ  รับชม ถ่ายทอดสดบอลวันนี้  พร้อมรับ เครดิตฟรี ได้ที่ 365kub ได้เลย

  • วิเคราะห์บอล เซเรีย อา ซามพ์โดเรีย VS ซาสซูโอโล่ ความพร้อมก่อนเกม ผลงาน 5 นัดล่าสุดของทั้งสองทีม พร้อมทรรศนะ
  • บอลวันนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมเปิดสนาม St. James’ Park ต้อนรับการมาเยือนของทีม เลสเตอร์ ซิตี้
  • วิเคราะห์บอล ซูเปอร์ลีก ตุรกี อิสตันบูลสปอร์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อดาน่า เดมิร์สปอร์
  • เว็ปหวยออนไลน์ HENG99 เว็บเดิมพันออนไลน์ครบวงจร ฝาก – ถอน รวดเร็ว บริการตลอด 24 ชม. สมัครเลยเว็บหวยออนไลน์อันดับ1 มาแรงในตอนนี้
  • เว็บตรงสล็อต สล็อตออนไลน์ เว็บใหม่เอาใจคนชอบสล็อต ครบจบทุกค่ายในเว็บไซต์เดียว

ข่าวฮิตมาใหม่

บทความร้อนแรงมาใหม่